ยางรถยนต์

9 แบรนด์ดัง ยางรถยนต์

 

ยางรถยนต์ RePower มีประสบการณ์ติดตั้งมากมาย กว่า 1,000 คันซึ่งมีตั้งแต่ Supercar , รถยุโรป รวมถึง 4×4ด้วยและรถญี่ปุ่นเล็ก ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าไม่ว่าจะยางแบบไหนก็มั่นใจได้กับมาตรฐานงานติดตั้งที่ RePowerพร้อมยางแบรนด์ชั้นนำจาก ทั่วโลกBridgestone , Michelin , Pirelli , Continental , Yokohama และ Kuhmo พร้อมรับประกันตรงจากโรงงานจำหน่ายทุกแบรนด์ และ ดูแลหลังการขายโดย RePower

 

ยางรถยนต์  มีให้เลือกหลายหลายรุ่น หลากหลายแบรนด์ ลูกค้าสนใจรุ่นไหน แบรนด์ไหน สามารถสอบถามได้ที่ ศูนย์บริการยางรถยนต์ , ล้อแม๊กซ์ , ช่วงล่าง และ อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์อย่างครบวงจร โทร. 099-398-9900 , 098-555-4500, 02-064-7462 (สาขา 1) หรือ 02-003-9900 (สาขา 2) Line : @RePower

 

วันนี้ทาง RePower จะมาแนะนำยางรถยนต์แต่ละรุ่น เพื่อการตัดสินใจของลูกค้า และเข้าใจในแต่ละแบรนด์

 

1.KUMHO

คัมโฮ (KUMHO) เป็นยางรถยนต์อันดับต้นๆ จากประเทศเกาหลีใต้ เป็นยางรถยนต์สมรรถนะสูงมีหลากหลายประเภท เพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของผู้บริโภค KUMHO คัมโฮเป็นแบรนด์ยางรถยนต์ที่ได้รับการยอมรับว่าเป็นยางรถยนต์คุณภาพสูงและมีตัวแทนจำหน่ายอยู่หลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ยังเป็นที่ยอมรับในวงการมอเตอร์สปอร์ตและเป็นหนึ่งในยางที่ให้การสนับสนุนการแข่ง F1 ยางรถยนต์ KUMHO มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านวัสดุศาสตร์ขั้นสูงจากเกาหลี ตอกย้ำความเป็นเลิศด้านดีไซน์ทั้งลายยางและแก้มยาง โดยมีรุ่นที่เป็นที่นิยม ดังนี้

 

  • Ecowing KH27 

ยางประหยัดน้ำมันระดับ High Performance ที่ช่วยให้ยึดเกาะถนนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ได้ทั้งความนุ่มเงียบแล้วยังประหยัดอีกด้วย พร้อมให้ทุกเส้นทางเป็นเส้นทางดีที่สุด

 

  • ECSTA PS31/PS71/PS91 

เหมาะสำหรับรถแต่ง รถสมรรถนะสูง พร้อมให้คุณสปอร์ตอย่างมีสไตล์ สัมผัสอารมณ์การขับขี่สไตล์สปอร์ตได้ทุกการขับเคลื่อน ลวดลายยางที่สวยงามเป็นที่ยอมรับในแวดวงมอเตอร์สปอร์ต

 

  • Crugen HP71/HP91/KL33/HT51 

ยางรถSUV สมรรถนะสูงระดับพรีเมี่ยม ด้วยสมรรถนะการควบคุมที่เหนือชั้น พร้อมกับการทรงตัวการเข้าโค้งที่ดีเยี่ยมในความเร็วสูง ประสิทธิภาพในการยึดเกาะและการเบรกระดับขั้นเทพ ทั้งถนนแห้งและถนนเปียก มั่นใจได้ในทุกเส้นทาง 

 

 

2.Michelin


Michelin (มิชลิน) ยางรถยนต์แบรนชั้นนำระดับโลก จาก ประเทศฝรั่งเศส ยางรถยนต์ระดับโลกมีวางจำหน่ายในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก โดยยางรถยนต์ของมิชลินผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและการใช้งานบนสภาพถนนที่แตกต่างกันในแต่ละท้องถิ่นจากโรงงานที่มีอยู่ 69 แห่งทั่วโลก ทั้งนี้ มิชลินได้ชื่อว่าเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนเพื่อการสัญจรของผู้คน และ ยางมิชลินซึ่งมุ่งเน้นคุณสมบัติหลัก 3 ประการอย่างเท่าเทียมกัน นั่นคือ ความปลอดภัย การประหยัดน้ำมัน และอายุการใช้งานที่ยาวนาน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ยางรถยนต์ที่มีคุณสมบัติครบถ้วนและมีสมรรถนะสูงสุดทุกด้าน

 

3.Toyo

พ.ศ. 2488 Toyo Rubber Industrial ก่อตั้ง เสริมความแข็งแกร่ง และพัฒนาโดย Toyo Boseki (ปัจจุบันรู้จักกันในชื่อ Toyobo) เพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมยาง ผสานกับ Hirano Rubber Manufacturing ก่อตั้งบริษัท Toyo Tyre & Rubber Co., Ltd.

พ.ศ. 2562 เปิดศูนย์วิจัยและพัฒนาแห่งยุโรปในเมืองวิลลิช ประเทศเยอรมนี กว่า 74 ปีที่ยางโตโย ที่ถือกำเนิดขึ้นและมีการพัฒนาคุณภาพแบบไม่หยุดยั้ง พร้อม ออกดอกยางลายต่างๆมากมายที่ เป็นตำนาน อย่าง R1R , Peoxes Sport , R888R ที่ทำให้ทั่วโลก ได้รู้จักแบรนด์ยางคุณภาพสูงจากญี่ปุ่น ยางโตโย มาจนถึงปัจจุบัน……….

 

4.Yokohama

Yokohama ก่อตั้ง Yokohama Rubber Manufacturing ขึ้นที่เมืองโยโกฮามา จังหวัดคานากาวา ประเทศญี่ปุ่น เมื่อ พ.ศ. 2460 ต่อมา ในปี พ.ศ. 2462 เริ่มการผลิตยางรถยนต์ ครั้งแรก ที่โรงงานฮิรานุมะ  เมืองโยโกฮามา  และในปี พ.ศ. 2464 ผลิตยางผ้าใบเป็นครั้งแรกของประเทศญี่ปุ่น  

ยาง YOKOHAMA BluEarth – GT AE51 ออกแบบและพัฒนามาเพื่อที่จะทำให้ทุกการขับขี่มีความสุนทรียภาพยิ่งขึ้น จากดอกยางที่พัฒนาขึ้นใหม่เพิ่มความแข็งแกร่ง ช่วยให้การขับขี่ด้วยความเร็วมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น และด้วยเทคโนโลยี การลดเสียงรบกวนของยาง ทำให้ทุกการขับขี่ผ่อนคลายลง อีกทั้งยังช่วยประหยัดน้ำมัน เหมาะสำหรับการขับขี่ 

 

5.Nitto

หากพูดถึงยางสปอร์ตหลายคนคงต้องหันมามอง NITTO ที่สร้างชื่อเสียงไว้ในวงการรถซิ่งไว้ไม่น้อย โดยเฉพาะในประเทศไทยที่สร้างภาพลักษณ์แห่งความสปอร์ตได้อย่างชัดเจน และวันนี้เราจะมาดู NITTO NT420S ยาง SUV ที่มีความโดดเด่นกว่าใครบนท้องถนนเพราะทั้งยังมีคุณสมบัติที่ทำให้ SUV ของท่านจะดึงสมรรถนะ และมีความพรีเมี่ยมเพิ่มขึ้นอีกด้วย

 

 

NITTO NT420S ยาง All-Seson ที่สุดของยาง SUV สไตล์สปอร์ต นุ่ม..เงียบ ขับเคลื่อนความท้าทายตลอดเส้นทาง เต็มสมรรถนะการยึดเกาะถนน และการเบรกที่ดีเยี่ยม ตอบสนองการขับขี่บนทุกพื้นผิว ทั้งบนถนน แห้งและเปียก ด้วยการออกแบบลักษณะลายดอกยางแบบไม่สมมาตร

คุณสมบัติหลักที่โดดเด่นของ NITTO NT420S คือ คุฯสมบัติการเกาะถนนแห้งโดยไม่ทิ้งการให้อารมการควบคุมลดน้อยลงเลย แต่กลับทำให้มีอารมการควบคุมที่ฉับไวขึ้น ,การออกแบบลายยางให้สลัดน้ำได้ดีบนถนนเปียก ,และออกแบบความสมดุลของการใช้งานได้ดีเยี่ยม

 

สุดยอดสมรรถนะแห่งการแข่งขันยืนยันด้วยรถซิ่งหลายรุ่นหลายสไตล์ ที่พร้อมใจกันมาทดสอบความหนึบแน่นของ NITTO NT420S ด้วยพื้นที่ด้านนอกของยางที่ออกแบบมาให้เป็นบล็อคยางที่กว้างทำให้  NITTO NT420S สร้างสมรรถนะการเกาะถนนได้ดี ด้วยการเพิ่มพื้นที่หน้าสัมผัสที่จะสร้างหน้าสัมผัสกับพื้นถนนเพิ่มแรงเกาะเมื่อเกิดการหมุน หรือการบิดของหน้ายางได้ดีกว่า นอกจากจะสร้างแรงเกาะที่ดีแล้ว NITTO NT420S ยังอาศัยความไม่สมมาตรการออกแบบให้ด้านนอกของยางที่มีหน้าสัมผัสเยอะกว่าสงผลให้การออกโค้งบนถนนแห่งมีประสิทธิภาพสามารถเกาะถนนพร้อมสงอัตราเร่งได้อย่างเต็มที่ และเพิ่มความสนุกในการควบคุมที่คาดไม่ถึงเลยทีเดียว

 

Even Wear(การสลับยาง)

การออกแบบลายยางแบบไม่สมมาตรทำให้ NITTO NT420S ไม่สามารถสลับยางได้ครบทั้ง 4 ต่ำแหน่ง แต่ด้วยการออกแบบลายยางแบบไม่สมมาตรของ NITTO NT420S สามารถสลับยางหน้าหลังได้ด้วยการสลับแบบไขว้ช่วยลดการสึกหรอจากความผิดปกติได้

 

Wet Performance (สมรรถนะบนถนนเปียก)

NITTO NT420S ทำให้เรามั่นใจในการขับขี่บนถนนเปียกได้ด้วยร่องรีดน้ำได้อย่าเพียงพอกับร่องรีดน้ำขนาดใหญ่ดีไซน์เฉี่ยว ช่วยระบายน้ำออกจากหน้ายางได้อย่างรวดเร็ว ลดอาการเหินน้ำ และ ร่องดอกยางขนาดเล็ก บริเวณไหล่ยางด้านนอก และด้านใน ช่วยเสริมสมรรถนะในการยึดเกาะถนนบนทุกพื้นผิว

 

บล็อกดอกยางสามมิติ

ช่วยเพิ่มสัมผัสยางกับพื้นถนน เพื่อการควบคุมที่ดีเยี่ยม เป็นจุดที่เชื่อมต่อระหว่างร่องรีดน้ำขนาดใหญ่ และเป็นบล็อกดอกยางสามมิติที่จะเพิ่มการควบคุมให้หน้ายางได้เติมเต็มในทุกสถาพถนน เพราะบล็อกดอกยางสามมิตินี้จะลดการบิดตัวของบล็อกดอกยาง เพิ่มความสนุกในการขับขี่ และควบคุมมากขึ้น

 

คะแนนสมรรถนะของ NITTO NT420S

จากคะแนนการประเมิณแล้วเห็นได้ชัดเลยว่า NITTO NT420S มีการเกาะถนนสร้างสมรรถนะให้กับรถที่ใส่ได้ดีแม้ถนนจะมีน้ำเคลือบผิวอยู่ก็ตาม เป็นความโดดเด่นที่สุดถ้าเทียบกับยางสปร์อตที่แน่นแต่สมรรถนะทางการขับขี่เพียงอย่างเดียว

                                                   

6.Pirelli

PIRELLI ก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1872 หรือ พ.ศ. 2415 ในเมืองมิลานของอิตาลี ปัจจุบัน PIRELLI คือแบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านความเป็นเลิศในสินค้ายางระดับ HIGH END และ PASSION ในนวัตกรรมโดยแฝงรากเหง้าความเป็นอิตาลี

 

PIRELLI มีพนักงานกว่า 30,000 คน มี 19 โรงงานผลิตยางใน 13 ประเทศ PIRELLI เป็นที่หนึ่งในวงการยางด้านการค้นคว้า โดยมีทีมวิจัยและทดสอบกว่า 1,800 คนจาก 11 ประเทศ มีสิทธิบัตรนวัตกรรมกว่า 5,800 สิทธิบัตรทำงานร่วมกับผู้ผลิตรถมากกว่า 100 แบรนด์ต่างๆ จากทั่วโลกใช้งบประมาณ R&D เฉลี่ยปีละ 16,280 ล้านบาท ใน 3 ปีที่ผ่านมา (หรือ 7.4% ของรายได้รวมบริษัท) มีงานวิจัยร่วมกับ 28 มหาวิทยาลัยต่างๆ ทั่วโลก และจัดจ้างงานวิจัยวัตถุดิบกระบวนการผลิต, ซอฟต์แวร์, อิเล็กทรอนิกส์ กับบริษัทต่าง ๆ มากกว่า 150 บริษัท

 

 

ผลคือการที่ PIRELLI ได้รับชัยชนะในผลการทดสอบจากสื่อชื่อดังเสมอและสามารถขายยางที่ใช้แข่งในรายการ WORLD SUPERBIKE ให้ทีมแข่งท้องถิ่นทั่วโลกใช้คว้าแชมป์ระดับประเทศ ในมากกว่า 28 ประเทศทั่วโลก หรือการเป็นหุ้นส่วนทางเทคนิคอย่างเป็นทางการกับค่ายรถ SUPERBIKE อิตาเลียน อย่าง DUCATI, MV AUGUSTA หรือค่าย SUPERCAR อย่าง LAMBORGHINI ที่มี PIRELLI เป็นยางติดรถจากโรงงานทุกคัน 100% PIRELLI ยังเป็นผู้สนับสนุนยางแข่งในรายการ FORMULA1 มาตั้งแต้ปี 2011 อีกด้วย

 

7.Bridgestone

หากให้ผู้ใช้รถยนต์นึกยี่ห้อแบรนด์ยางดัง เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยต้องนึกถึงยางรถยนต์  “Bridgestone​ บริดจสโตน​” อย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยชื่อชั้นที่มีมาอย่างยาวนานและได้รับความเชื่อถือจากหลายประเทศทั่วโลก ทำให้แบรนด์ยางนี้เป็นแบรนด์ที่ถูกพูดถึงอยู่เสมอ

สำหรับใครที่กำลังสงสัยว่ายาง Bridgestone นั้นดีอย่างไร ใช้แล้วคุ้มค่าจริงไหม แล้วทำไม Bridgestone ถึงเป็นยางรถยนต์อันดับต้นๆ ที่คนทั่วโลกเลือกใช้

 

 

Bridgestone แบรนด์ผลิตยางรถยนต์ระดับโลก

Bridgestone​ เป็นแบรนด์ผลิต​ชิ้นส่วนและยานยนต์​สัญชาติ​ญี่ปุ่น​ ที่นอกจากจะมีชื่อเสียงโด่งดังจนเป็นที่ยอมรับในระดับสากลแล้ว ปัจจุบันยังเป็นบริษัทผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกด้วย​ เนื่องจากยาง​รถยนต์ของ Bridgestone​ นั้นมีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ได้ครบทุกความต้องการทั้ง​ยางรถกระบะและยางรถเก๋ง นอกจากนี้ทางแบรนด์ยังได้มีการพัฒนา​เทคโนโลยีด้านความปลอดภัยของยางสม่ำเสมอ เพื่อช่วยให้ผู้ขับขี่สามารถ​ควบคุมรถในทุกสภาพถนนได้เป็น​อย่างดี​

 

สำหรับยางรถยนต์รุ่นแรกของ Bridgestone ​​นั้นถูกผลิตขึ้นในวันที่ 9 เมษายน 1960 โดยการคิดนอกกรอบด้วยการนำส่วนผสมของยางมาเป็นวัสดุในการแก้ไขถุงเท้าที่มักจะขาดบ่อยๆ จนนำมาสู่การพัฒนาและต่อยอดมาเป็นการผลิตยางรถยนต์ในที่สุด

 

เป็นที่รู้จักและนิยมใช้งานแพร่หลายในประเทศไทย

สำหรับสาเหตุ​ที่ทำให้ยาง Bridgestone เป็นแบรนด์ที่รู้จักและได้รับความนิยมจนมียอดขายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในประเทศไทยนั้น นอกจากจะเป็นเรื่องของคุณภาพและเทคโนโลยีของยางรถยนต์แล้ว อีกเหตุผลหนึ่งก็มาจากการเปิดศูนย์บริการรถยนต์ภายใต้การดูแลของ Bridgestone ในชื่อ Cockpit

ซึ่งศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจรนี้ นอกจากจะขายยางรถยนต์, แบตเตอรี่, น้ำมันเครื่อง, ผ้าเบรก​, โช็คอัพ ใบปัดน้ำฝน และอุปกรณ์ประดับยนต์ต่างๆ ​แล้ว ทางศูนย์ก็ยังมีบริการอื่นๆ​ ด้วย​ เช่น​ ตรวจเช็กสภาพยาง ตั้งศูนย์ล้อ ถ่วงล้อ และดูแลยางรถยนต์​ รวมถึงล้อแม็กทุกประเภทด้วย

 

8.Goodride

ยางรถยนต์ GOODRIDE ผลิตจากโรงงาน ZC Rubber ซึ่งเป็นผู้นำด้านการผลิตยางรถยนต์ที่ติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลก โดยมีการตั้งฐานการผลิตที่ประเทศไทยและเลือกใช้ยางพาราไทยคุณภาพสูงมาผลิตให้ได้ยางเรเดียลเสริมใยเหล็กที่ให้ความยืดหยุ่นสูง ทนทาน และยังคงความนุ่มนวล จนออกมาเป็นยางรถยนต์มาตรฐานระดับโลก

 

9.BF Goodrich

แบรนด์ยางรถยนต์ชั้นนำสายพันธุ์แกร่งซึ่งผลิตภายใต้การควบคุมคุณภาพจากโรงงานของมิชลิน ขยายฐานการผลิตเพิ่มจากเดิมที่อยู่ในสหรัฐอเมริกามาไทยตามกลยุทธ์ระดับโลกที่มุ่งทำการผลิตใกล้ตลาดจัดจำหน่าย พร้อมรุกตลาดยางรถยนต์ในไทยเต็มสูบตั้งแต่ต้นปี 2562 ด้วยศักยภาพความพร้อมของสายการผลิตมาตรฐานสากล ณ โรงงานแหลมฉบัง และเครือข่ายร้านค้าตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการกว่า 280 แห่งทั่วประเทศ

 

By thailer