กบฏรักจอมแผ่นดิน

กบฏรักจอมแผ่นดิน จางซัง (คัมวูท่อนไม้) แล้วก็ กองกิ (ลีจุนกิ) เป็นเพื่อนร่วมงาน และก็มิตรแท้ ทั้งสองอาศัยอยู่กับคณะนักแสดงเร่ ในปี 1500 ตอนวงศ์สกุลโจซุน ด้วยความขุ่นเคืองที่ กองกิ มักถูกขายร่างกายให้เจ้าขุนมูลนายชั้นสูง จางซัง ก็เลยชักชวน กองกิ หนีไปกรุงโซลเพื่อเล่นละครเร่ การแสดงชุดยอดนิยมสูงที่สุดเป็น การแสดงขำขันล้อเลียนกษัตริย์ยอนซัน (จุงจินยอง) ทำให้ได้เงินมาก จนกระทั่งท้ายที่สุดก็โดนจับในข้อกล่าวหาดูถูกเหยียดหยามเบื้องบน ผู้แสดงทั้งสิ้นถูกลงโทษ “ประหาร”

ยกเว้นถ้าสามารถทำให้กษัตริย์ยอนซันหัวเราะออกมาได้ถึงจะรอดตาย เมื่ออยู่เฉพาะหน้าหน้าสมาชิกทั้งผองกลับไม่กล้าแสดง ยกเว้น กองกิ ที่แสดงบทหญิงสาวได้อย่างสนุกสนานแล้วก็แสนตลก กบฏรักจอมแผ่นดิน ทำให้กษัตริย์ยองซันถูกใจแล้วก็ทรงพระสรวลออกมา พร้อมพูดให้รับเข้ามาเป็น “ตลกขบขันหลวง” ในวัง กองกิ แปลงเป็นคนโปรดของกษัตริย์ แล้วก็ถูกเรียกเจอเป็นการส่วนตัวทุกคืน ในระหว่างที่การแสดงหน้าพระที่นั่งเริ่มเข้มข้นขึ้น

เมื่อกษัตริย์ยอนซัน เริ่มคุมตัวเองมิได้และก็จำเป็นต้องฆ่าคนครั้งใดก็ตามมองละครช่วงสำคัญเกี่ยวกับการเปิดเผยเงื่อนการเสียชีวิตที่จริงจริงที่คุณแม่ของท่าน ความเจ็บจากข้อเท็จจริงทวีความร้ายแรงโดยสะท้อนผ่านละครทำให้ กษัตริย์ยอนซัน เสียการคุมตัวเอง ลงมือฆ่านางสนมกำนัล 2 คนซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องที่เกิดขึ้น

กบฏรักจอมแผ่นดิน

เรื่องราว กบฏรักจอมแผ่นดิน The King and the Clown

จางซัง (คัมอูซอง) แล้วก็กงกิล (อีจุนกิ) เป็นเพื่อนร่วมงาน และจากนั้นก็เพื่อนแท้ ทั้งคู่อาศัยอยู่กับคณะละครเร่ ในปี 1500 ตอนตระกูลโชชอน ด้วยความโกรธแค้นที่กงกิลมักถูกขายร่างกายให้เจ้าขุนมูลนายชั้นสูง จางซังก็เลยเชิญกงกิลหนีไปกรุงโซลเพื่อเล่นละครเร่ การแสดงชุดที่ได้รับความนิยมเยอะที่สุดเป็น การแสดงตลกล้อเลียนกษัตริย์ยอนซาน (จองจินยอง)

ทำให้ได้เงินมากมาย จนกระทั่งตอนท้ายก็ถูกจับในข้อกล่าวหาดูถูกเหยียดหยามเบื้องบน นักแสดงทั้งสิ้นถูกลงโทษ “ประหาร” นอกเหนือจากถึงแม้สามารถทำให้กษัตริย์ยองซานหัวเราะออกมาได้ถึงจะรอดชีวิตเมื่ออยู่ซึ่งๆหน้าบริเวณใบหน้าสมาชิกทั้งมวลกลับไม่กล้าแสดง เว้นแต่ว่ากงกิลที่แสดงบทหญิงสาวได้อย่างสนุกและแสนขบขัน ทำให้กษัตริย์ยองซานประทับใจและทรงพระสรวลออกมา กบฏรักจอมแผ่นดิน พร้อมบอกให้รับเข้ามาเป็น “ตลกหลวง” ในพระราชสำนัก กงกิลกลายเป็นคนโปรดของกษัตริย์ แล้วก็ถูกเรียกพบเป็นการส่วนตัวทุกคืน

ในช่วงเวลาที่การแสดงหน้าพระที่นั่งเริ่มเข้มข้นขึ้น เมื่อกษัตริย์ยองซานเริ่มควบคุมตัวเองไม่ได้แล้วก็จำเป็นจะต้องฆ่าคนเมื่อใดก็ตามดูละครประเด็นสำคัญเกี่ยวกับการเปิดเผยเงื่อนการตายที่แท้จริงที่แม่ของท่าน ความเจ็บปวดจากความจริงทวีความรุนแรงโดยสะท้อนผ่านละครทำให้ กษัตริย์ยองซานเสียการคุมตัวเอง

ลงมือฆ่านางสนมกำนัล 2 คนซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุที่เกิดขึ้น ทำให้จางซังตกลงปลงใจจะออกมาจากราชสำนัก แม้กระนั้นกงกิลกลับปรารถนาอยู่ต่อ เพราะรู้สึกเห็นใจรวมถึงเห็นอกเห็นใจในตัวกษัตริย์ยองซาน “ความรัก-โลภ-เกลียด-หลง” หน้าที่เวทีชีวิตของ “กษัตริย์ยองซาน-กงกิล-จางซัง” ยังไม่สิ้นสุดลง “เรื่องโศกเศร้าชีวิต” ที่พวกเขาเป็นผู้เลือกแสดงเอง กำลังรอคอยพวกเขาอยู่!

ภาพยนตร์ประเทศเกาหลีอิงประวัติศาสตร์ ผลิตขึ้นจากความจริง เล่าถึงความข้องเกี่ยวระหว่างพระเจ้ายอนซัน (Yeonsangun of Joseon) กับศิลปินละครเร่ (Clown, Jester) 2 คน จางแซง (Jang-saeng) รวมถึงกองกิล (Gong-gil) กับการแสดงที่ทำให้คุณยิ้มหัวเราะออกมาได้ แต่ละครที่จางแซง แล้วก็กองกิลแสดงออกมานั้น ไม่ได้เพียงแต่ทำให้กษัตริย์หัวเราะเท่านั้น แต่สามารถฆ่าคนให้ตายได้ด้วย

เปลี่ยนแปลงจากบทละครเรื่อง Yi (You) ของ Kim Tae-woong เปิดการแสดงเมื่อปี 2000 ได้รับความนิยมล้นหลาม แล้วก็ปัดกวาดรางวัล Stage Play of the Year จากหลายสำนัก, ซึ่งบทละครอ้างอิงมาจากเนื้อความใน ตำนานวงศ์วานโชชอน (Joseon Dynasty) ที่เล่าถึงความเชื่อมโยงระหว่างพระเจ้ายอนซัน จอมเผด็จการ กับตัวละครละครเร่ที่ทรงโปรด กองกิล ส่วนตัวละครจางแซง ได้ถูกทำเยอะขึ้นมา เป็นเหมือนพี่ของกองกิล ที่รักแล้วก็กลุ้มใจน้องชายมากไม่น้อยเลยทีเดียว, ชื่อละคร Yi เป็นคำขอให้ช่วยโลภษัตริย์ ที่เรียกข้าวของเครื่องใช้ที่ท่านรัก

นำแสดงโดย Kam Woo-sung เล่นบท จางแซง, แม้นี่จะเป็นตัวละครที่เพิ่มเข้ามา แม้กระนั้นมีความสำคัญต่อเรื่องราวเป็นอย่างมาก เป็นเปรียบเหมือนพี่ชายของ กองกิล (พี่แท้ๆไหมไม่เคยทราบ หนังไม่ได้บอกไว้ แต่รู้สึกว่าบางครั้งก็อาจจะเป็นเพื่อนรักที่รู้จักกันมานานมากกว่า) จางแซงเป็นผู้รอบรู้รวมทั้งความรู้ความเข้าใจทางร่างกายบาปสูง (มีความคิดว่าอาจจะมากกว่ากองกิลเสียอีก)

ทะเยอทะยาน ทะเยอทะยาน รู้จักผิดประทับใจชั่วโคตรดี และรักเพื่อนสนิทเพื่อนพ้อง ถึงกับขนาดยอมตายแทนกันได้, การแสดงของ Woo-sung จัดว่า เท่ห์บาดใจ (อย่างนี้ไม่จัดว่าหล่อนะ)พี่ชายที่แสนดี ชื่นชอบที่สุดเป็นตอนที่เล่นเป็นคนตาบอดกับกองกิล ไม่คิดว่าช่วงท้ายจะต้องมาตาบอดจริงๆLee Joon-gi ศิลปินคนใหม่ เล่นบท กองกิล, ด้วยใบหน้า ผิวพรรณที่นุ่มนวล ถ้าเกิดให้แต่งหญิงใครๆคงคิดว่าเขาเป็นสตรีแน่

การแสดงของ Joon-gi ว่ากันตามจริงก็ไม่ได้อะไรมากแค่ไหน นอกจากหน้าตา ท่วงท่าที่อย่างกับสตรี แล้วก็สีหน้า น้ำตาที่เค้นอารมณ์ปวดออกมา ผมว่านักแสดง จางแซง ยังมีบทสะดุดตากว่าอีก, เป็นหนังพรีเซนเทชั่น กองกิล เหมือนเด็กที่อ่อนแอ ยังไม่โต ต้องการการดูแลเอาใจใส่อุปถัมภ์ (นี่สะท้อนกับพระเจ้ายอนซัน ที่มีด้านในเป็นเด็ก) จวบจนกระทั่งช่วงท้ายที่เปรียบเสมือนกองกิล ประสงค์ตกลงปลงใจอะไรเอง แต่ไม่แคล้วจำเป็นจะต้องกลับมาพึ่งจางแซง

Jung Jin-young เล่นบท พระเจ้ายอนซัน กษัตริย์ที่มีเงื่อนโอดิปุส (Oedipus) เพราะแม่ถูกลอบปรงพระชนมายุเมื่อครั้งท่านยังเด็ก (ถูกวางยา) ทำให้ขาดความรักความอบอุ่นแล้วก็ความยั่งยืนและมั่นคง เกิดเป็นความรุนแรงฝังใจและความเคร่งเครียดเก็บกดที่ไม่เคยถูกระบายออก ใบหน้าอันเคร่งครึมไม่เคยยิ้ม (เป็นเสมอเหมือนเกราะกำบังสร้างกำแพงเอาไว้) ถึงแม้ว่าเพียงพออยู่กับมเหสีสองต่อสอง กลับแสดงออกทำตัวเช่นเดียวกันกับเด็กไม่รู้โต ซึ่งมเหสีก็เจตนาทำตัวเป็นเหมือนกับแม่ ยินยอมให้พระเจ้ายอนซัน เป็นอย่างกับลูก ซุกซ่อนอยู่ในสุ่มกระโปรงของคุณ

แม้กระนั้นเมื่อพระเจ้ายอนซันได้พบกับตัวตลก มุกแรกที่ขำ ไม่มีผู้ใดคาดเดามาก่อน มันเหมือนการได้เติมเต็มความรู้สึกที่หาย ระบายบางอย่างออกไป, นี่ต้องถือว่าท่านมีความเป็นอัจฉริยะ ความหวั่นไหวด้านศิลปะการแสดงอย่างมาก ก็เลยสามารถทราบเข้าใจเรื่องราว ถอดความนัยยะออกมาเป็นตัวเป็นตนได้ในทันทีทันใด, ซึ่งอิทธิพลที่เกิดขึ้นจากการรับรู้ เข้าใจนี้ ล้วนแต่เป็นสิ่งที่อยู่ในใจท่าน แม้ว่าไม่เคยได้รับการศึกษาเล่าเรียนรวมทั้งกระทำศึกษาค้นพบ เปิดเผย เสนอออกมา

การแสดงออกตอบโต้ก็เลยมีลักษณะตาต่อตาฟันต่อฟัน กบฏรักจอมแผ่นดิน ไร้จริยธรรมจรรยาบรรณใดๆที่จะสามารถยั้งความดีความชั่วของท่านได้ (มันเป็นการระบายความความอัดอั้นตันใจที่อยู่ในใจออกมา) คนจำนวนมากมีความรู้สึกว่า การที่กษัตริย์ทำอย่างงี้ เป็นทรราชย์ (Tyrant) การแสดงของ Jin-young เมื่อพอเพียงเครียดก็เข้มเยอะมาก ครั้นเมื่อหัวเราะก็ปากกว้างเป็นที่สุด เวลาอยู่ในห้องสองต่อสอง ก็ปฏิบัติตนเช่นเดียวกันกับเด็กเล่นของเล่น ถือได้ว่าเป็นดาราที่มีหลายบุคคลิก จำเป็นต้องใช้มากไม่น้อยเลยทีเดียวขั้นตอนการแสดง ปรบมือให้เลย ถือเป็นการแสดงที่น่าประทับใจเยอะมาก

กบฏรักจอมแผ่นดิน

รีวิว ดูหนัง The King and the Clown (2005)

เป็นภาพยนตร์ที่ขายดีที่สุดในประเทศประเทศเกาหลีใต้ทุกปี 2548 โดยมียอดขายตั๋วมากกว่า 12 ล้านใบในตอน 7 อาทิตย์ แต่คราวหลังมองดูไปแล้ว ก็เกิดเหตุยากที่จะเข้าใจถึงความคลั่งไคล้ดังกล่าวมาแล้วข้างต้น หรือเกี่ยวกับกระแสประชาสัมพันธ์ของ New York Times ที่ว่า “อาจเท่ากันกับ ‘Brokeback Mountain'” ไม่ใช่ว่ามันจะเป็นหนังแย่ แต่ว่ามันให้ความบันเทิงและก็บอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจในราชสำนักของพระราชาธิราชประเทศเกาหลี

บางครั้งใดๆที่เกี่ยวข้องกับธีมเกย์อาจถูกเปรียบเทียบกับ Brokeback Mountain ที่เลื่องลือของ Lee Ang อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อะไร หนทางที่ภาพยนตร์ประเด็นนี้เปลี่ยนแปลงขึ้นมา ฉันแลเห็นมันในมุมมองที่ผิดแผกออกไป โน่นเกิดเรื่องราวระหว่างเพื่อนคู่หูที่เป็นเพศผู้สองคน ถึงหนึ่งในนั้นจะดูและปฏิบัติตัวเป็นหญิงมากกว่าผู้หญิงบางคนก็ตาม แทนที่จะด่วนสรุปตรงๆว่าผู้แสดงนำชายทั้งสองเป็นเกย์ specavtomatica ทำไมจะคบกันแบบสงบไม่ได้ และยิ่งผู้หญิงอ่อนกว่าเลือกสิ่งที่จะทำเป็นขายข้างหลัง เนื่องจากเป็นนักร้องที่อดอยาก พวกเขาไม่มีเงินจ่าย ที่จะวางอาหารไว้บนโต๊ะ?

ใช้ประโยชน์จากรูปลักษณ์ของเขาอย่างแท้จริงเพื่อนำแป้งกลับมา แน่นอนว่าเพื่อนเกลอของเขาอาจเกลียดชังแนวคิดนี้ แล้วก็อาจแปลความได้ว่าอิจฉา (ในฐานะแฟน) หรือไม่เห็นด้วย (ในฐานะเพื่อน) อีกครั้ง เพราะว่าวัฒนธรรม ภาพยนตร์หัวข้อนี้อาจตกลงปลงใจอย่างระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับธีมนี้ แม้ว่าจะพูดไม่ชัดเจน แต่ว่าก็ทำให้มีการโต้แย้งที่น่าสนใจหากแม้คุณดูประเด็นนี้กับเพื่อนพ้อง

กบฏรักจอมแผ่นดิน

มิตรสหายสองคน จางเซง (คัมวูซอง) แล้วหลังจากนั้นก็กงกิล (อีจุนกิ)

เป็นดาราภาพยนตร์ริมทางผู้อนาถาที่ใฝ่ฝันที่จะแสดงความบันเทิงจะเก็บเกี่ยวผลตอบแทนที่พวกเขาควรจะได้รับ พวกเขามาพร้อมกับการแสดงที่เลื่องลือและน่าขยะแขยง ล้อเลียนจักรพัตราธิราชและก็มเหสีอย่างสนุกสนาน และไม่นานพวกเขาก็ถูกจับ ก็แค่เพื่อจางเส็ตระหนี่ล้าเสนอว่า หากกษัตริย์ไม่เย้ยหยันพวกเขา พวกเขาสามารถถูกประหารได้

เป็นไปตามเคราะห์กรรม การแสดงที่กลุ้มใจของพวกเขาได้รับการตอบกลับอย่างดีเยี่ยมจากกษัตริย์ผู้บังคับ (จุง จินยอง) ในช่วงเวลานี้แปลงเป็นตัวตลกในราชสำนักแล้ว ละครต่อๆมาของพวกเขาซึ่งได้รับจากการคุยในร้านขายกาแฟในสมัยนั้น เรื่องวงศ์วานและเรื่องฉาวโฉ่ในราชสำนักต่างๆก็เป็นเชื้อเพลิงแนะนำให้พระในหลวงหลุดพ้นจากผูกมัดที่รัดแน่นของท่านแล้วรับเอา การกระทำอันร้ายแรงบางอย่างตามเจตนาของเขา

แต่ทัศนคติของเผด็จการนอกเหนือจากทัศนคติแล้ว กบฏรักจอมแผ่นดิน เขายังมองกงกิลด้วยสิ่งที่จำเป็นอันแรงกล้า แล้วก็กลายเป็นเช่นเดียวกันกับเด็กเมื่ออยู่เฉพาะหน้าเขาเป็นการส่วนตัว ชายผู้มีอำนาจเยอะที่สุดในอาณาจักร กลายเป็นทารกแอซึ่งๆหน้านักดนตรีผู้ต่ำ สิ่งที่ตามมาเป็นรูปลักษณ์ที่น่าสนใจเกี่ยวกับพลวัตของความเกี่ยวพันระหว่างชายสามคนและกับผู้คนที่อยู่รอบข้างพวกเขา

ตั้งอยู่ในสมัยตระกูล Chosun มีฉากที่สวยที่สุดที่ทำให้ตอนที่ตายไปแล้วกลับมามีชีวิตอีกครั้ง รวมถึงเครื่องแต่งตัวที่สวยที่ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยสีสันมากมาย นอกเหนือจากนี้ เพลงยังด้วยเหตุว่าพอเพียงฟังอีกด้วย และฉันแน่ใจว่าการละเล่นมีทิศทางที่จะสนุกเยอะขึ้นหลายเท่าถึงแม้คุณเข้าใจภาษาประเทศเกาหลี แทนที่จะควรต้องอาศัยคำบรรยาย

By thailer