versus movie (2000) เต็มเรื่อง ดูหนังฟรี Full HD KUBHD.COM

versus movie

versus movie หนังว่าด้วยเรื่องราวของนักโทษสองคน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นักโทษ KSC2-303 (ทัค ซะกะกุซิ) ที่แหกคุกออกมาและนัดกับพวกยากูซ่า (ซ่งแต่ละคนไม่ครบสติสัมปชัญญะทั้งนั้นเลย) แต่เรื่องก็ไม่เป็นเรื่องเมื่อพอนัดดันในป่าช้าแห่งหนึ่ง ก็เกิดการทะเลาะกันเพียงเพราะผู้หญิงคนหนึ่ง (ไชโกะ มิซะกะ) ที่พวกยากูซ่าลักพาตัวมา ทำให้เกิดศึกจ่อปืนกัน โดนนักโทษคนนั้นดันไปยิงโดนลูกหลงกันไปซึ่งดันไปโดนหนึ่งในลูกน้องของแ๊กงค์ยากูซ่า

ทำให้คนนั้นตาย แต่ยังไม่จบเมื่อจู่ๆลูกน้องที่โดนยิงนั้นดันฟื้นขึ้นมายังกะผีดิบ ทำให้พวกนั้นสงสัยอะไรกันหว่า แต่นี่แค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เพราะในป่านั้นยังเต็มไปด้วยพูติผีดิบเต็มป่าเลย versus movie และนั้นทำให้พระเอกรู้ว่าเขาเกิดมาต่อสู้กับ ชายคนหนึ่ง (ไฮดิโอะ ซากะกิ) คนที่ทำให้ศพกลายเป็นผีดิบเต็มป่า แล้วนี้พวกเขาจะรอดหรือ ไม่จะเจอเรื่องบ้าๆอะไรอีกไหม

“การเผชิญหน้าอย่างลึกลับในป่าโล่งเตียนระหว่างผู้ต้องขังสองผู้ที่แอบหนีแล้วก็ยากูซ่าที่แต่งตัวฉกาจฉกรรจ์จำนวนหลายชิ้นด้ามจับหญิงสาวงามเป็นจำเลยจบสิ้นลงด้วยห่าลูกกระสุนรวมทั้งเลือดที่ไหลอาบ สถานที่ในการประจันหน้าอันร้ายแรงนี้เป็น Forest of Resurrection ในตำนาน ซึ่งเป็นที่ตั้งของพอเพียงร์ทัลที่ 444 ของประตูลับ 666 ประตูที่เชื่อมโยงโดเมนของโลกนี้กับโลกใต้ดิน

และก็ชื่อนี้มิได้มาโดยไร้ประโยชน์ เมื่อหนึ่งในผู้ต้องขังที่รอดชีวิตได้หลบซ่อนไปพร้อมทั้งหญิงสาวในความมืดมนของป่า แก็งค์อาชญากรรมที่ไม่ชอบใจก็แปลงเป็นสิ่งที่น่าวิตกต่ำที่สุดเร็วนี้ๆ เมื่อการต่อสู้ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาระหว่างนักสู้ผู้สันโดษกับฝูงซอมบี้ซอมบี้ดำเนินมาตั้งแต่ยุคสหัสวรรษที่แล้วจนกระทั่งตอนนี้”

versus movie

versus movie (2000)

“Versus” เป็นภาพยนตร์อินดี้แนวสยองขวัญ/แอ็กชันยอดนิยมอย่างยิ่งสำหรับเพื่อการเปิดตัวทีแรกจากญี่ปุ่น ซึ่งพรีเซ็นท์ภาพยนตร์ตะวันตกเยอะมากๆให้รู้จักกับภาพยนตร์ประเทศญี่ปุ่นในแบบที่รู้จักกับภาพยนตร์แนวตะวันตกของแอ็คชั่นเหนือชั้น เลือดสาด และก็ลูกผู้ชาย ชักชวนให้รำลึกถึงผลงานของปีเตอร์ แจ็คสัน หรือแซม ไรไม่ หลายทศวรรษถัดมา ไม่มีส่วนประกอบใดที่สูญเสียความน่าดึงดูดใจไป

เนื่องจากว่าส่วนประกอบกลุ่มนี้ยังคงสื่อถึงสมัยสมัยก่อนที่แฟนหนังชนิดโรแมนติกประทับใจการบรรลุผลโดยตลอดของงานสร้างนั้นขึ้นกับส่วนประกอบที่กระตุ้นความรู้สึกมากยิ่งกว่า ด้วยเลือดแล้วก็ความประพฤติปฏิบัติที่ส่งออกมาอย่างยอดเยี่ยม ภาพยนตร์ประเด็นนี้จะปฏิบัติหน้าที่เปิดตัวทั้งยัง Ryuhei Kitamura แล้วก็ Tak Sakaguchi สู่ความฉลาดปราดเปรื่องในความฉลาดหลักแหลมของพวกเขา

สำหรับเพื่อการเพิ่มงบประมาณที่จำกัดให้สูงสุด versus movie เพื่อสร้างวิสัยทัศน์ที่ความระส่ำระสายที่แจ่มชัดและก็ล้ำสมัย วิสัยทัศน์ยังคงไม่แตกสลายและก็ยังคงตื่นเต้นอย่างเดิมถึงแม้ผู้ชมจะได้รับของขวัญจากภาพยนตร์ไม่มีประโยชน์จากประเทศญี่ปุ่นสองสามทศวรรษที่หาดูได้ง่ายหนังเล่าเรื่องในอนาคตในปี 2070 สหรัฐอเมริกาประสบเหตุระเบิดนิวเคลียร์โจมตีลอสแองเจลิส

คาดว่าน่าจะเป็นฝีมือของ AI รัฐบาลจึงเร่งเปิดฉากสงครามทำลายล้าง AI ให้สิ้นซาก โจชัว (จอห์น เดวิด วอชิงตัน – John David Washington) อดีตเจ้าหน้าที่หน่วยรบพิเศษผู้สูญเสียภรรยา มายา (Gemma Chan – เจมมา ชาน) ถูกเลือกให้กลับมารับหน้าที่ตามล่า เนอร์มาตา (Nirmata) ผู้สรรสร้างที่คาดว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง AI ทั้งมวล ที่อาศัยอยู่ใน ‘นิวเอเชีย’ ดินแดนที่ยังคงมีคนและ AI ใช้ชีวิตร่วมกันอย่างปกติสุข

แต่แล้วเขากลับพบว่า อาวุธทรงพลังที่กองทัพหมายหัว กลับเป็นเพียง AI เด็กน้อยที่มีชื่อว่า แอลฟี (เมเดลีน ยูนะ วอยเลส – Madeleine Yuna Voyles)ความโดดเด่นและสดใหม่ของหนังไซไฟเรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นภาพของการแบ่งโลกออกเป็น 2 ฟากฝั่งทางความคิดที่สะท้อนไปถึงวัฒนธรรม และความขัดแย้งทางแนวคิดเกี่ยวกับ AI และในทางการเมือง ฝั่งนิวเอเชียคือตัวแทนของความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่โอบรับ AI

เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสังคม ภาพของโลกอนาคตแบบ Cyberpunk ท่ามกลางทุ่งนาป่าเขา ชนบท สถานที่และบรรยากาศแบบไทย ๆ จึงเป็นอะไรที่โคตรล้ำ แปลกตา และมีเอกลักษณ์มาก แต่ในขณะเดียวกันมันก็ดูกลมกลืนมาก ๆ ชนิดที่เด็กวิ่งเล่นกับหุ่นยนต์ได้แบบไม่ตกใจ จนผู้เขียนแอบรู้สึกว่าฉากต่าง ๆ นี่คือผลจากการ Prompt คำสั่งให้ Midjourney คอย Generate ออกมาแน่ ๆ

versus movie

รีวิว

เมื่อหลายปีที่ผ่านมา ผมได้เดินเข้าร้านค้าซีดี แล้วสายตาของผมก็ไปสะดุดกับปกดีวีดีของหนังเรื่องหนึ่ง ปกดีวีดีของหนังหัวข้อนั้น เป็นรูปเงาของชายที่ถืออีกทั้งกระบี่แล้วก็ปืนแล้วก็เมื่อกลับมองปกด้านหลัง ก็จะมองเห็นรูปจากหนังที่มองผิวเผินแล้วเชื้อเชิญให้นึกว่าเป็นหนังเกรดบีชั่วร้ายๆซะอย่างยิ่ง ดวงใจผมก็คิดต้องการซื้อมาพิสูจน์ว่าหนังมันเป็นเยี่ยงไรกันแน่? แม้กระนั้นเพราะเหตุใดก็ไม่เคยรู้ผมถึงปลดปล่อยหนังประเด็นนั้นไป

จนถึงหลายยาวนานหลายเดือนถัดมา versus movie ผมก็ได้ทราบข้อมูลของหนังหัวข้อนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทั้งยังเรื่องที่ว่าหนังหัวข้อนี้ “มันมากมาย” ไม่ก็ “หนังประเด็นนี้มั่วสุดๆ” รวมทั้งหนังยังมีส่วนประกอบที่กวนโทสะให้ผมจำเป็นต้องมองอย่าง แอ็กชั่นกระบี่ซามูไร,เลือด,รวมทั้งเครื่องใน (ปลาบปลื้มมากมายกก) จนกระทั่งผมทนไม่ได้จำเป็นต้องซื้อมาดูพิสูจน์ให้เห็นมากับตาว่าหนังมันหรือมั่วกันแน่?

ซึ่งภายหลังที่ผมได้ดูแล้ว ดวงใจของผมก็บอกกับผมเป็นเสียงเบาๆ(บวกซ่อนเร้นความโรคทางจิต) ว่า “นี่แหละ รักแรกพบของเอ็ง!” หนังที่เป็นรักแรกพบของผมที่เอ่ยมาข้างต้นก็คือหนังประเทศญี่ปุ่นเรื่อง “Versus”(หรือในชื่อไทยที่สุดแสนจะถึงใจถึงอารมณ์ “ทหารแดนนรกล่าทวยเทพ”) หน้าที่ดูแลของผู้กำกับ “ริวเฮย์ คิตามูระ” ที่ผมแปลงเป็นสาวกของเขาไปด้วยความเต็มใจ

จนกระทั่งต้องหาหนังเรื่องอื่นๆของ คิตามูระ มาดูเป็นการด่วน เช่น หนังซามูไรสาวเลือดเดือด(ที่น่าจะเป็นหนังของ คิตามูระ ที่ชาวไทยรู้จักเยอะที่สุด) อย่าง “Azumi”(2003)หนังซามูไรดวลเดือดกับทวยเทพเทวดาเท็นงู(ที่ราวกับจะเคยได้เห็นว่าบริษัทภาพยนตร์ในบ้านพวกเราซื้อมาลงแผ่น แต่ว่าจนกระทั่งขณะนี้ผมก็ยังไม่เคยมองเห็นแผ่นนั้นเลย) “Aragami”(2003),แล้วก็ หนังแอ็กชั่นที่ผลิตจากการ์ตูน “Sky High”(2003)

แม้กระนั้นก็เป็นที่รู้กันโดยทั่วไปในกลุ่มแฟนคลับว่า หนังที่มองมันและก็เยี่ยมที่สุดของริวเฮย์ ก็คือ Versus นั่นเอง เนื่องจากว่ามันเป็นหนังที่ใส่ “ความเป็นคิตามูระ” ไว้สูงที่สุด และก็ถ้าคุณต้องการทำความรู้จักกับหนังของ คิตามูระ หนังเรื่อง Versus ก็เป็นเสมือนจุดเริ่มที่ดี specavtomatica สำหรับการไปสู่โลกอันดุเด็ดเผ็ดมันของ คิตามูระ เกิดเรื่องราวเกี่ยวกับ ผู้ต้องขังสองผู้ที่หนีออกจากคุกหนีมายังป่าแห่งหนึ่ง

เพื่อรอคอยกรุ๊ปยากูซ่ามาช่วยเหลือ รวมทั้งเมื่อกรุ๊ปยากูซ่ากรุ๊ปนั้นมาถึง ทั้งปวงก็ได้ทราบดีว่า ป่าที่นี้มีความไม่ธรรมดา แล้วก็ทุกๆสิ่งทุกๆอย่างที่เป็นไปในป่านี้ก็ถูกควบคุมโดย “จอมขมังเวทย์” ผู้หนึ่ง ที่คอยจะทำ การ“บางสิ่ง” อีกทีลักษณะเด่นที่แสนจะกระโดดกระเด้งเป็นอย่างมากของหนังหัวข้อนี้ เป็นการที่หนังที่ผสมเชื้อสายหนังไว้หลายเครือญาติมากมาย อีกทั้งหนังแอ็กชั่น ดวลปืน ควงกระบี่ซามูไร ศิลป์การต่อสู้,หนังสยองขวัญ ซอมบี้ เลือดสาด

เครื่องในล้น,หนังยากูซ่า,หนังจอมขมังเวทย์ แฟนตาซีนิดๆ,ไปจนกระทั่งหนังพีเรียดหน่อยๆอีกต่างหาก ซึ่งคุณจะได้เจอทั้งผองนี้ได้ในหนังหัวข้อนี้เรื่องเดียว! แม้ว่าจะดูราวกับว่ามั่วๆแม้กระนั้นคิตามูระก็ร้อยเรียงอารมณ์ของหนังได้อย่างสะดวก ดูแล้วไม่รู้จักสึกสะดุด ทั้งยังหนังยังมาในโทน “เล่าแบบประเทศญี่ปุ่น” เลยช่วยทำให้หนังมีอารมณ์ที่ไม่เปิดเผยเหลือเกินนัก

ขยายความก็คือ หนังประเทศญี่ปุ่น ชอบมีท่าทางรวมทั้งอิริยาบถสำหรับการเล่าแบบ เนิบๆค่อยๆเป็น ค่อยๆไป เบาๆปูพื้นอารมณ์ของหนัง ซึ่งสำหรับ Versus ก็มีเคล็ดลับการเล่าเรื่องแบบประเทศญี่ปุ่นๆ(ก็มันเป็นหนังประเทศญี่ปุ่นนี่เนอะ)หมายถึงเบาๆเปิดเผยเงื่อนเรื่อง ครั้งละนิดๆแล้วก็ด้วยแนวทางเล่าแบบงี้ก็ยังช่วยทำให้อารมณ์ที่นานาประการของหนัง สามารถใส่มาได้อย่างไม่เคยรู้สึกแออัดยัดเยียดแล้วก็โฉ่งฉางเกินความจำเป็นอีกด้วย

เป็นต้นว่าเมื่อหนังจะเข้าสู่ฉากแอ็กชั่น หนังจะเบาๆปูพื้นอารมณ์ เพื่อไปสู่ฉากแอ็กชั่น ผู้ชมก็เลยสามารถรู้สึกเนียนๆ(เป็นไม่ทราบสึกแออัดยัดเยียด)ไปกับหนังได้อย่างดีเยี่ยมรวมทั้งส่วนที่เป็นลักษณะเด่นมากมายอีกอย่างก็คือ ความเป็นคิตามูระ ในหนังหัวข้อนี้ที่มีอยู่สูงมากมาย ซึ่งความเป็นคิตามูระ ก็คือ การถ่ายรูปแบบอีกทั้ง หมุน อีกทั้งควง กล้องถ่ายภาพอย่างบ้าดีเดือด

versus movie

การตัดต่อที่ทำให้หนังออกมาแบบ “วูบวาบๆ”

ดนตรีประกอบที่ทำให้หนังมีความรู้สึกดุเด็ดเผ็ดมันอยู่ในหน รวมทั้งความเป็นคิตามูระกลุ่มนี้ ก็จะยิ่งแสดงฤทธิ์เดชใส่ผู้ชมเยอะขึ้นเรื่อยๆในฉากแอ็กชั่น รวมทั้ง Versus ก็มีฉากแอ็กชั่นเป็นชุดๆให้ คิตามูระ ได้ปลดปล่อยความเป็นคิตามูระได้อย่างเต็มกำลัง และก็หนังหัวข้อนี้ก็ยังเป็นราวกับ “สนามเด็กเล่นที่มีพื้นที่จำกัด” ที่เด็กผู้ชายคิตามูระเล่นบันเทิงใจอย่างเต็มเปี่ยม พูดอีกนัยหนึ่ง

หนังเดินเรื่องในป่าแห่งหนึ่งตลอดทั้งเรื่อง ซึ่งทำให้ดูเหมือนกับว่าหนังมีพื้นที่จำกัด แม้กระนั้นคิตามูระก็สามารถใช้พื้นที่เพื่อใส่ฉากแอ็กชั่นได้อย่างคุ้มมาถึงที่ตรงนี้แล้วดูอย่างกับว่า หนังเรื่อง Versus มีความเชื่อมั่นในตัวเองสูงเอาการ นี่ผมก็ยังเคยคิดเล่นๆว่า หากหนังเรื่องมิได้ผู้กำกับป้อมปราการหัวใจในตนเองสูงอย่าง คิตามูระ(เมื่อมองจนถึงจบ จะรู้สึกได้เลยว่าหนังจำต้องทำโดยผู้ที่มีความมั่นใจและความเชื่อมั่นในตัวเองสูง)

หนังอาจมีอารมณ์ที่ไม่ถูกที่ผิดทาง จนถึงหาเรื่องทำให้หนังรู้สึก “มั่ว” มากยิ่งกว่า “มัน” แล้วก็ผมก็จะต้องขอ ออกสตาร์ทไว้ก่อนเลยว่า Versus เป็นหนังที่ค่อนจะเฉพาะกรุ๊ปพอควร แล้วก็ยังเป็นหนังชนิดดิบๆชั่วร้ายๆมันๆแรงๆอีกด้วย ซึ่งถ้าเกิดคุณจูนกับหนังหัวข้อนี้ไม่ติด versus movie ก็บางทีอาจจะมีความรู้สึกว่าหนังมั่วมากยิ่งกว่ามันเหมือนกันสำหรับคนไหนที่ต้องการพิสูจน์คุณความดี(ที่ผมเขียนเชียร์กระทั่งน่าชังน้ำหน้า)

รวมทั้งต้องการจะเริ่มทำความรู้จักกับหนังของคิตามูระ(ที่ปัจจุบัน ขณะนี้โกฮอลลีวู้ดไปทำหนังเรื่อง “The Midnight Meat Train”แล้ว) หนังเรื่อง Versus สามารถเป็นกุญแจดอกสำคัญที่จะพาคุณไปสู่โลกของ ริวเฮย์ คิตามูระ ได้ดิบได้ดีที่สุดโชคดีที่การจุดโฟกัสที่แอ็กชันรวมทั้งเอฟเฟ็กต์นั้นพอเพียงสำหรับเพื่อการถ่ายทำทั้งผอง เนื่องมาจากส่วนประกอบอื่นๆค่อนข้างจะสั้น โดยเฉพาะ

การเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นจริงนั้นค่อนข้างจะไม่น่าสนใจและก็มีวิธีการตั้งค่าสำหรับซีเควนซ์แอ็กชันต่อไปมากยิ่งกว่า ดังนี้ ผู้ชมเป็นจำนวนมากก็เลยถูกใจความจำเกี่ยวกับการสร้างสำหรับเพื่อการกลับมามองซ้ำก็เลยคงจะเชื่อมโยงกับลำดับสถานะการณ์บางสิ่งเหนือเรื่องราวจริงด้วยการตัดหนังสองส่วนที่แตกต่าง (ขอบคุณมากที่ Arrow นำออกฉายซ้ำมีทั้งคู่ส่วน) การตัดต่อเพิ่มอีกของผู้กำกับก็เลยเพิ่มคุณค่าเพียงนิดหน่อย

แล้วก็ถ้าเกิดมีสิ่งใดที่ทำให้ภาพยนตร์หัวข้อนี้น่ารำคาญที่จะเดินเรื่องในฐานะภาพยนตร์ชนิดที่เน้นย้ำเรื่องขำขัน เลือดสาด และก็แอ็คชั่น แทบไม่เคยได้รับผลดีจากช่วงเวลาฉายที่ยืดออกไปเลย ผลตอบแทนจากความตระหนกตกใจและก็ความผาดโผนจะน้อยลงเสมอเมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นทางด้านเทคนิคของการสร้างเป็นถุงผสมบางส่วน ในด้านหนึ่ง การนำเสนอด้วยภาพมีความปั่นป่วนรวมทั้งประดิษฐ์อย่างน่าแปลก พรีเซ็นท์ภาพแอคชั่นที่เน้นย้ำการสังหารที่น่าสนใจจิตใจ ในทางตรงกันข้าม เพลงประกอบนั้นเสียดสี

รวมทั้งสะท้อนถึงขณะนั้นด้วยคะแนน ‘in your face’ ซึ่งดูเหมือนจะยากที่จะพิสูจน์ว่ามันแจ๋วมากแค่ไหน สิ่งที่พบบ่อยในสมัยซึ่งก็คือโทนสีที่น่าระอาซึ่งช่วยลดผลพวงของเลือดและก็คราบรอยเลือดสุดท้ายแล้ว ข้อคิดเห็นใดๆก็ตามเกี่ยวกับภาพยนตร์ประเด็นนี้สามารถถูกละเลยไปได้ด้วยความรักที่มีต่อวิธีพิเศษรวมทั้งวิถีทางที่วุ่นวายซึ่งทำให้ “Versus” เป็นเลิศในรูปภาพยนตร์ลัทธิที่เป็นที่พึงพอใจเยอะที่สุด

เท่าที่เคยมีมาในประเทศญี่ปุ่น ส่วนด้านอื่นๆดังเช่นว่า บทสำหรับพูดในค่ายแล้วก็บทสนทนาทึ่มๆจะได้รับความรักหรือชิงชังโดยขึ้นกับความชื่นชอบของผู้ชม แฟนคลับของหนังสยองขวัญสมัย 80 แล้วก็การโอบกอดความไม่มีสาระของมันและก็ความรักในเอฟเฟ็กต์ที่ใช้งานได้จริงจึงควรชนะอย่างแน่แท้ด้วยการปฏิบัติการที่เหนือชั้นการบรรลุผลทางศาสนาที่ “Versus” ได้รับจากการเปิดตัวเป็นสิ่งที่เหมาะสมได้รับอย่างแน่แท้ แล้วก็หลายประเด็นของการสร้างที่ทำให้ภาพยนตร์ประเด็นนี้เป็นที่นิยมแบบนี้ยังคงมีให้มองเห็นในอีกหลายทศวรรษถัดมา ยิ่งไปกว่านี้ การเปิดตัวของ Arrow Films ยังให้การฟื้นฟู 2k ที่คู่ควร ซึ่งจะก่อให้แฟนคลับเดิมพึงพอใจแล้วก็เย้ายวนใจแฟนคลับใหม่ๆ

By thailer